10 เมนูประจำโต๊ะฉลองวันคริสต์มาสจากประเทศตะวันตก รับประทานอะไรกันบ้าง🍗🍷

aช่วงเทศกาลคริสต์มาสนอกจากจะได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “เทศกาลแห่งแสง” แล้ว ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ชาวคริสต์ให้ความสำคัญ และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบทอดกันมา หนึ่งในกิจกรรมเหล่านั้นคือการร่วมโต๊ะเพื่อรับประทานอาหารพร้อมกัน เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความอบอุ่น ความรัก และความสามัคคีภายในครอบครัว เมนูสำหรับครอบครัวและการเฉลิมฉลองเทศกาล จึงต้องพิเศษกว่าวันธรรมดา โดย 10 เมนูที่ได้รวบรวมมาวันนี้ มีอะไรบ้าง ชาวตะวันตกรับประทานอะไรกันในช่วงเทศกาล ไปติดตามกันได้เลยรับรองว่าแค่อ่านก็หิวแล้ว

10 เมนูฉลองเทศกาลคริสต์มาส มื้อพิเศษสำหรับทุกคนในครอบครัว

              เมื่อใกล้ถึงช่วงเทศกาลนอกจากการเลือกซื้อของตกแต่งงานคริสต์มาสอย่าง คริสต์มาสบอลสีทอง (The Golden Ball), ริบบิ้น, พวงมาลัยคริสต์มาส และต้นคริสต์มาสแล้ว การเลือกซื้อวัตถุดิบเพื่อนำไปปรุงเป็นเมนูพิเศษก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ชาวคริสต์ให้ความนิยม และเมนูประจำเทศกาลที่น่าสนใจของแต่ละประเทศมีดังต่อไปนี้

1. ไก่งวงอบ (Thanksgiving Turkey)

ไก่งวงคือเมนูประจำโต๊ะของหลากหลายประเทศในแถบตะวันตก ซึ่งแต่ละประเทศจะมีขั้นตอนกันปรุงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและความชื่นชอบในรสชาติ และหากไม่รับประทานไก่งวงก็จะรับประทานห่านหรือหงส์แทน อย่างประเทศอังกฤษจะนำขนมปัง แคร์รอต หอมใหญ่มาสับ และนำไปผัดกับเนย ใส่นม ไข่ เกาลัด และเบคอนเพื่อความหอม จากนั้นนำไปยัดไส้ในตัวไก่แล้วนำไปอบ เสิร์ฟพร้อมมันอบกรอบนอกข้างในฉ่ำนุ่ม และไส้กรอกพันด้วยเบคอน หรือ “หมูห่มผ้า” จัดโต๊ะตรงกลางด้วยชามแก้ว ใส่อมยิ้มไม้เท้า (Candy Can) สีขาวสลับแดง เป็นอันเสร็จ

2. สมาลาโฮฟ (Smalahove)

สมาลาโฮฟคือหัวแกะย่างจากประเทศนอร์เวย์ ที่นำเอาหัวแกะไปผ่าครึ่งนำสมองออก โรยด้วยเกลือและนำไปย่าง ต่อด้วยการตากให้แห้ง ก่อนที่จะนำหัวแกะไปเคี่ยวจนงวด เสิร์ฟพร้อมมันบด ชาวนอร์เวย์นิยมรับประทานส่วนของลิ้นและกล้ามเนื้อตามากที่สุด และในปี 2541 ได้มีกฎหมายห้ามประชาชนรับประทานหัวแกะที่โตเต็มที่ เนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่ได้อนุญาตให้รับประทานหัวลูกแกะแทน

3. พลาโต เดอ ฟรุตส์ เดอ แมร์ (Plateau de fruits de mer)

หรือ “ที่ราบสูงแห่งเดอ ฟรุตส์ เดอ แมร์” เมนูเฉลิมฉลองของประเทศฝรั่งเศส ที่นอกจากจะรับประทานไก่งวงอบแล้ว ยังนิยมรับประทานพลาโต เดอ ฟรุตส์ เดอ แมร์ ซึ่งเป็นอาหารทะเลเสิร์ฟแบบเย็นบนน้ำแข็ง ทั้งหอยนานาชนิด กุ้ง และล็อบสเตอร์ รับประทานพร้อมซอสมายองเนส และซอสหอมแดง

4. ตาร์ติแฟล็ต (Tartiflette)

อีกหนึ่งเมนูประจำโต๊ะจากประเทศฝรั่งเศส “ตาร์ติแฟล็ต” เป็นจานอาหารหลักท้องถิ่น โดยมีเบคอนและชีสเป็นวัตถุดิบหลัก เมื่อนำเบคอนไปผัดกับหอมใหญ่แล้วจะปรุงด้วยใบไธม์และไวน์ขาว ก่อนจะนำไปวางบนมันต้ม และชีสจากนมวัวของแถบซาวัว ที่อยู่ในเขตเทือกเขาแอลป์ เรียกว่า ชีสเรอโบลชง (Reblochon) จากนั้นนำไปเข้าเตาอบและพร้อมเสิร์ฟ

5. เฟรสเกสเทก (Flaeskesteg)

เมนูเฉลิมฉลองจากประเทศเดนมาร์ก เฟรสเกสเทก คือ “หมูกรอบ” ที่ผ่านกรรมวิธีการอบจนได้หนังที่กรุบกรอบและเนื้อยังคงความหวานฉ่ำ ราดด้วยน้ำซอสเข้มข้นรับประทานคู่กับขนมปัง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมร้องเพลง มอบของขวัญ และเต้นรำรอบต้นคริสต์มาส (Pine Tree)

6. เจนส์สัน เฟรสเทิลส์ (Janssons Frestelse)

อาหารประจำเทศกาลจากประเทศสวีเดน ทำมาจากการนำมันฝรั่ง หัวหอม และปลาแอนโชวี่ไปอบในถาดเดียวกัน ด้วยวิธีการทาเนยที่ถาดสำหรับอบจากนั้นวางหัวหอม 1 ชั้น ตามด้วยมันฝรั่งอีก 1 ชั้น และเนื้อปลาอีก 1 ชั้น ทำซ้ำไปแบบนี้จนเต็มถาด จากนั้นจึงเทวิปครีม ทาเนยซ้ำอีกสักเล็กน้อย โรยด้วยผงขนมปังอีกนิดหน่อยก่อนจะนำไปอบ เมื่อรับประทานให้ตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมไส้กรอก แฮม หรือมีทบอล

7. ริซาลามันเด (Risalamande)

ของหวานประจำเทศกาลจากประเทศเดนมาร์ก มีหน้าตาคล้ายกับข้าวเหนียวเปียกบ้านเรา เพราะทำมาจากเมล็ดข้าวที่ต้มจนแฉะ ผสมกับวิปครีมและเมล็ดอัลมอนด์ทุบ จากนั้นนำไปแช่เย็น เมื่อจะรับประทานให้ตักออกมาราดด้วยซอสเชอร์รี่รสเข้มข้น โดยมีความเชื่อว่าระหว่างขั้นตอนการปรุงนั้นจะใส่เมล็ดอัลมอนด์ที่ไม่ได้ทุบลงไปด้วย หากใครคือผู้ที่รับประทานและพบเมล็ดอัลมอนด์ที่ยังไม่ได้ทุบ จะเป็นผู้โชคดีได้รับของขวัญ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามเคี้ยวหรือกลืนลงไปแล้ว

8. สตูว์โปรตุเกส (Cozido a Portuguesa)

เมนูนี้นอกจากจะเป็นอาหารประจำเทศกาลแล้ว ยังถือว่าเป็นมรดกทางวัฒนธรรมด้วย วิธีการทำคือนำเนื้อสัตว์หลากหลายชนิด ทั้งเนื้อไก่, เนื้อหมู, เนื้อวัว และไส้กรอกหลากหลายชนิด พร้อมผักมากมายทั้งแคร์รอต มันฝรั่ง และกะหล่ำปลี นำวัตถุดิบทั้งหมดมารวมกันในหม้อ จัดสัดส่วนตามความเหมาะสม เมื่อรับประทานสามารถตักใส่จานเสริฟร้อนรับประทานคู่กับขนมปัง หรือจะโรยด้วยปลาค็อดอบแห้งอันเป็นอาหารประจำชาติด้วยก็ได้

9. คริสต์มาสพุดดิ้ง (Christmas Pudding)

เป็นเค้กประจำเทศกาลจากประเทศอังกฤษ เนื้อเค้กมีสีเข้มไปจนถึงสีดำ เนื่องจากมีส่วนผสมของผลไม้แห้ง ถั่ว และน้ำตาลทรายแดงเป็นหลัก ความพิเศษอยู่ที่กิจกรรมระหว่างการรับประทาน โดยมีธรรมเนียมว่าสมาชิกทุกคนจะต้องช่วยกันคนส่วนผสมและระหว่างนั้นจะสามารถขอพรได้คนละ 1 ข้อ และจะมีการแอบนำเหรียญ 6 เพนนีใส่ลงไปในขนมด้วย ระหว่างรับประทานหากใครได้เหรียญ 6 เพนนีจะถือว่าพรที่คนนั้นขอจะเป็นความจริง

10. เคลมาเซวาสเททู โลไฮ (Kylmasavustettu Lohi)

เมนูประจำเทศกาลจากประเทศฟินแลนด์ ชื่อเมนูเคลมาเซวาสเททุ โลไฮ เป็นภาษาฟินแลนด์ หรือแปลเป็นชื่อเมนูง่าย ๆ ว่าปลาแซลมอนรมควันเย็น เสิร์ฟบนน้ำแข็งรับประทานพร้อมน้ำมะนาว หรือบางครอบครัวจะรับประทานปลาเฮอริ่งรมควันเย็นแทน ด้วยประเทศฟินแลนด์นั้นอยู่ใกล้กับทะเลบอลติกทำให้มีปลาเฮอริ่งให้รับประทานคู่กับเมนูอื่น ๆ ในทุก ๆ เทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำไปอบกับมันฝรั่งและหัวหอม หรือการหมักด้วยเกลือ

วัฒนธรรมการรับประทานอาหารในช่วงเทศกาลคริสต์มาส

              วัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวตะวันตก เกิดขึ้นคู่กับประเพณีการตกแต่งเครื่องประดับวันคริสต์มาส ภายในบ้านและบริเวณรอบบ้าน เพราะนอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของพระเยซูแล้ว ชาวตะวันตกยังเชื่อว่าเป็นวันครอบครัวที่ทุกคนจะได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันด้วย และโดยส่วนใหญ่จะเริ่มเสิร์ฟเมนูพิเศษกันตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม อย่างในประเทศอังกฤษจะเริ่มมื้อเที่ยงเป็นมื้อแรก

และตามวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา ผู้อาวุโสหรือผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ที่สุดในครอบครัวจะเป็นผู้ตัดเนื้อไก่งวง หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ตามธรรมเนียมแต่ละท้องถิ่นให้แก่สมาชิกทุกคน และจะใช้เวลาในการรับประทานยาวนานไปเรื่อย ๆ ทั้งของคาว, ของหวาน, นม, ช็อกโกแลตร้อน, ไวน์, เหล้า และแชมเปญ ต่อมาในวันที่ 25 ธันวาคม ชาวตะวันตกก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันประเทศแถบเอเชียคือ “เป็นวันที่พักผ่อนสบาย ๆ ไม่ต้องทำอะไร” สิ่งที่รับประทานก็จะเป็นเมนูที่เหลือมาจากการเฉลิมฉลองเมื่อวาน ซึ่งโดยปกติแต่ละครอบครัวจะทำทั้งของคาวและของหวานเก็บไว้เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว

              นอกจาก 10 เมนูประจำเทศกาลคริสต์มาสที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลากหลายเมนูที่น่าสนใจ บางเมนูเราสามารถทำได้เองเพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยวัตถุดิบ และมีสื่อการเรียนรู้มากมายให้เราได้ทำตาม แต่สิ่งสำคัญคือความหมายของเทศกาลนี้คือความรัก ความปราถนาดี และการแบ่งปัน อย่าลืมเผื่อแผ่ความรักของคุณให้กับคุนในครอบครัว เพื่อให้บรรยากาศเฉลิมฉลองเต็มไปด้วยความอบอุ่น